หน้าเว็บ



วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

5 ทะเลสาบ ที่สวยที่สุดในจีน


Qinghai Lake

ทะเลสาบชิงไห่ Qinghai Lake

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ประเทศจีน ถือเป็นประเทศที่มีมนต์เสน่ห์ชวนหลงใหล และน่าไปสัมผัสอีกประเทศหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านสถาปัตยกรรม ประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่อีกสิ่งหนึ่งที่มีสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่แพ้กันก็คือ "ทะเลสาบ" เพราะมีความสวยงามทางธรรมชาติที่เชื่อว่านักเดินทางหลาย ๆ คนใฝ่ฝันอยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขออาสาพาทุกท่าน ไปเที่ยวชม 5 ทะเลสาบที่สวยที่สุดในประเทศจีนกัน จะมีที่ไหนบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

1. ทะเลสาบชิงไห่ (Qinghai Lake)

          ที่นี่ถือเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงทิเบต ในช่วงหน้าร้อนและฤดูใบไม้ผลิ พื้นที่โดยรอบจะปกคลุมไปด้วยพืชใบเขียวสวยงาม ขณะที่ในฤดูหนาว ก็จะมีเกล็ดหิมะเล็ก ๆ ปกคลุมกระจายไปทั่ว ซึ่งถือได้ว่า ทะเลสาบชิงไห่ มีทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปแบบฤดูต่อฤดูเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 จุดชมวิวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นั่นก็คือ Haixinshan ซึ่งอุดมไปด้วยแนวชายฝั่งที่เป็นโขดหิน และ Niaodao หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "เกาะนก" เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีนกบินอพยพย้ายถิ่นฐานกว่า 100,000 ตัวอยู่เป็นประจำ

          สำหรับการเดินทางไปยัง ทะเลสาบชิงไห่ สามารถเดินทางไปได้ทุกช่วงของปี แต่ที่อยากจะแนะนำเป็นพิเศษก็คือช่วงฤดูร้อน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้บางชนิด ซึ่งหาชมได้ยากจะเบ่งบานเป็นพิเศษ อีกทั้งในช่วงที่มีนกบินอพยพมา ก็เป็นช่วงเวลาหนึ่ง ที่น่าเดินทางไปชื่นชมความงามของฝูงนก

          สนนราคาสำหรับค่าเข้าชมตกท่านละ 230 หยวน* หรือประมาณ 1,150 บาท ต่อ 3 คืน ซึ่งคุณสามารถเดินทางได้ด้วยการโดยสารรถบัส ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง และมีค่ารถอีก 20 หยวน จากนั้นก็จ้างรถมินิบัสเพื่อเดินทางไปยัง Niaodao อีก 50 กิโลเมตร และมีค่าใช้จ่ายอีก 50 หยวน

Kanas Lake

ทะเลสาบคานาส Kanas Lake

2. ทะเลสาบคานาส (Kanas Lake)

          ในป่าลึกของเทือกเขาอัลไต มี ทะเลสาบคานาส หรือที่ชาวจีนเรียกกันว่า "คานาซือ" ซึ่งเป็นทะเลสาบภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนซ่อนอยู่ สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัส กับความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้คือ น้ำของทะเลสาบ ซึ่งสามารถเปลี่ยนสีได้ตามมุมตกกระทบของแสงแดด และตามฤดูกาลต่าง ๆ นอกจากนั้นยังมีฝูงหงษ์ให้ได้ไปชื่นชมอีกด้วย หากคุณต้องการที่จะสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิดแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณตื่นเช้า ๆ สูดอากาศหายใจลึก ๆ แล้วนั่งชื่นชมเก็บบรรยากาศของหมอกยาวเช้า ที่ปกคลุมทั่วทั้งทะเลสาบ สาย ๆ หน่อยก็ไปล่องเรือสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนพื้นเมือง และธรรมชาติของทะเลสาบก็เข้าท่าอยู่ไม่น้อย

          ที่สำคัญเลยเราขอเตือนสักนิดสำหรับท่านที่สนใจจะไป เนื่องจากที่นี่สภาพอากาศไม่แน่นอน อาจจะมีฝนตกบ้าง ไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้น ก็ควรที่จะพกเสื้อกันฝนติดตัวไปด้วยจะเป็นการดีที่สุด ขณะที่ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทางไปเยี่ยมชมที่สุด คือ ช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมและกลางเดือนกันยายน

          สนนราคาสำหรับค่าเข้าชมในช่วงไฮซีซั่น จะอยู่ที่ท่านละ 150 หยวน* หรือประมาณ 750 บาท ส่วนในช่วงโลว์ซีซั่น จะอยู่ที่ท่านละ 80 หยวน* หรือประมาณ 400 บาท ด้านการเดินทาง มีสองเส้นทางให้ได้เลือกกันทั้งนั่งรถบัสจาก Urumqi Beijiao ไปยัง Buerjin ใช้เวลาในการเดินทาง 10 ชั่วโมงและมีค่าใช้จ่าย 50 - 94 หยวน กับอีกหนึ่งเส้นทางที่จะเรียกได้ว่าเป็นทางลัดที่สุดเลยก็ว่าได้ คือเดินทางมุ่งหน้ามายัง Buerjin ด้วยการชมทิวทัศน์ของสองฝั่งทะเลสาบ ซึ่งจะใช้เวลา 4 ชั่วโมง เร็วกว่ากันเยอะเลย

Changbaishan Heavenly Lake

ทะเลสาบสวรรค์ฉางไป๋ซา Changbaishan Heavenly Lake

3. ทะเลสาบสวรรค์ฉางไป๋ซา (Changbaishan Heavenly Lake)

          ทะเลสาบสวรรค์แห่งนี้ตั้งอยู่บนเทือกเขาฉางไป๋ซา เป็นหนึ่งในสถานที่อันน่าหลงใหลที่สุดแห่งหนึ่ง ในภาคเหนือของประเทศจีน ซึ่งเกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ ที่ครั้งหนึ่งพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นปล่องภูเขาไฟมาก่อน นอกจากนี้ ยังมีน้ำตกสูงกว่า 60 เมตร ไหลลงบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิสูงถึง 42 องศาเซลเซียส ขณะที่ในฤดูหนาวน้ำพุดังกล่าวก็จะแข็งตัวกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เกิดความสวยงามตามแบบธรรมชาติอีกแบบหนึ่ง

          ช่วงเดือนที่เหมาะแก่การเดินทางมา ณ ทะเลสาบสวรรค์แห่งนี้คือเดือนกรกฎาคม สิงหาคม และกันยายน หากคุณเดินทางมาในฤดูใบไม้ร่วง ก็ขอให้คุณระมัดระวังตัวให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะจะมีหมอกลงหนาจัด และอาจจะทำให้มองไม่เห็นวิวทิวทัศน์อะไรเลย

          สนนราคาสำหรับค่าเข้าชมอยู่ที่ท่านละ 100 หยวน* หรือประมาณ 500 บาท และมีค่ารถบัสสำหรับนักท่องเที่ยวอีก 68 หยวน* หรือประมาณ 340 บาท ในส่วนของการเดินทางเราขอแนะนำให้ใช้รถไฟขบวน "N188" จากสถานี Baihe และต่อรถเพื่อนขึ้นเขาฉางไป๋ชา โดยมีค่ารถประมาณ 20 หยวน* หรือประมาณ 100 บาท

Lugu Lake

ทะเลสาบหลู่กู๋ Lugu Lake

4. ทะเลสาบหลู่กู๋ (Lugu Lake)

          ทะเลสาบหลู่กู๋ ถือเป็นอัญมณีที่สุดแสนจะล้ำค่าของประเทศจีน ตั้งอยู่บนที่ราบสูงทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมลฑลยูนนาน ในแต่ละปีจะมีสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างคงที่ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก ในช่วงฤดูหนาวก็จะมีฝูงเป็ดและฝูงนกนางนวล อพยพย้ายถิ่นมาเป็นจำนวนมาก ขณะที่ในช่วงเดือนพฤษภาคมและเดือนมิถุนายนจะเป็นช่วงเวลาต้นไม้ ใบหน้าต่าง ๆ ผลิดอกออกผล ดูมีชีวิตชีวาเป็นที่สุด

          อีกสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเยือนที่นี่ คือคุณต้องไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของ ชาวโมโซ (Mosu people) เพราะชาวบ้านที่นี่มีประเพณีที่สืบทอดกันมานาน ด้วยการให้ผู้หญิงทำหน้าที่เสมือนผู้ชาย เป็นผู้นำของครอบครัว นอกจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ช่องเขาหลู่กู๋ ช่องเขาที่มีชื่อเสียงด้านความงามของน้ำตก เป็นต้น

          สนนราคาสำหรับค่าเข้าชมอยู่ที่ท่านละ 78 หยวน* หรือประมาณ 390 บาท ในส่วนของการเดินทางให้เริ่มจากทางรถไฟก่อนอันดับแรก โดยขึ้นจากสถานี Chengdu ไปยังสถานี Xichang มีค่าโดยสารประมาณ 145 หยวน* หรือประมาณ 725 บาท จากนั้นนั่งรถบัสตรงยาวมายังทะเลสาบหลู่กู๋นี้ได้โดยตรง รถจะออกเวลา 8.40 น. และ 9.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีค่าโดยสารประมาณ 71 หยวน* หรือประมาณ 355 บาท ใช้เวลาเดินทั้งสิ้น 7-8 ชั่วโมง

Namtso Lake

ทะเลสาบนามูโช่ Namtso Lake
5. ทะเลสาบนามูโช่ (Namtso Lake)

          ทะเลสาบนามูโช่ ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนทิเบต ระหว่างมณฑล Damxung และ Bange เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก แต่อยู่สูงที่สุดในโลก ทุก ๆ ฤดูร้อนของที่นี่ พื้นที่ตรงนี้จะเต็มไปด้วยสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น วัวป่าขนยาว แพะภูเขา กระต่ายป่า และสัตว์ป่าอื่น ๆ รวมไปถึงนกชนิดต่าง ๆ อีกมากมาย บางวันก็จะมีปลากระโดดขึ้นมาเหนือน้ำให้เห็น หรือได้ยินเสียงเพลงจากคนในหมู่บ้านระแวกนั้นอีกด้วย

          ด้วยความที่อยู่สูง ทำให้น้ำแข็งที่เกิดจากกาารตกของหิมะ แตกตัวกระจัดกระจาย เกิดเป็นความงามตามธรรมชาติขึ้นมา ที่สำคัญด้วยความสูงดังกล่าว ทำให้คนส่วนใหญ่ปรับตัวกับสภาพอากาศไม่ได้ จึงเกิดอาการป่วยกันอยู่บ่อย ๆ ดังนั้น ควรทานยาแก้ปวดหรือยานอนหลับก่อนนอน ก็จะช่วยได้มากเลยทีเดียว

          สวนราคาสำหรับค่าเข้าชมอยู่ที่ท่านละ 45 หยวน* หรือประมาณ 225 บาท ไม่มีระบบขนส่งสาธารณะใด ๆ ที่มีเส้นทางมายังที่นี่โดยตรง คุณต้องเช่ารถพร้อมคนขับรถมาด้วย โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,500 หยวนสำหรับการเดินทางแบบไปกลับ 2 วัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น