หน้าเว็บ



วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์

การ์ดแลน

 



เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการรับส่งข้อมูลจากเครื่องคอมฯเครื่องหนึ่งไปสู่อีกเครื่องโดยผ่านสายแลน การ์ดแลนเป็นอุปกรณ์ที่สามารถต่อพ่วงกับพอร์ตแทบทุกชนิดของเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น ISA, PCI, USB, Parallel, PCMCIA และ Compact Flash ซึ่งที่เห็นใช้กันมากที่สุดก็จะเป็นแบบ PCI เพราะถ้าเทียบราคากับประสิทธิภาพแล้วถือว่าค่อนข้างถูก มีหลายราคา ตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทจนถึงหลักพัน ส่วนแบบ USB, Parallel, PCMCIA ส่วนใหญ่จะเห็นใช้กันมากกับเครื่องโน๊ตบุ๊ค เพราะก็อย่างที่ทราบกันอยู่ว่าการติดอุปกรณ์ลงในพอร์ตภายใน ของเครื่องโน๊ตบุ๊คเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงจึงต้องอาศัยพอร์ตภายนอกดังที่กล่าวมา

VGA Card หรือ Display Adapter
 










                                                                                  Card VGA-AGP
มีหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณ digital ให้เป็นสัญญาณภาพ โดยมี Chip เป็นตัวหลักในการประมวลการแปลงสัญญาณ ส่วนภาพนั้น CPU เป็นผู้ประมวลผล แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีการประมวลผลภาพนั้น VGA card เป็นผู้ประมวลผลเองโดย Chip นั้นได้เปลี่ยนเป็น GPU (Grarphic Processing Unit) ซึ่งจะมีการประมวลภาพในตัว Card เองเลย เทคโนโลยีนี้เป็นที่แพร่หลายมากเนื่องจากราคาเริ่มปรับตัวต่ำลงมาจากเมื่อก่อนที่เทคโนโลยีนี้เพิ่งเข้ามาใหม่ๆ โดย GPU ค่าย Nvidia เป็นผู้ริเริ่มการลุยตลาด

คอมพิวเตอร์

โมเด็ม(Modem)





เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณแอนะล็อก (Analog Signal) ให้เป็นสัญญาณดิจิทัล (Digital Signal) และในทางกลับกันก็แปลงสัญญาณดิจิทัลให้เป็นสัญญาณแอนะล็อก โดยเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับช่องทางการสื่อสาร กล่าวคือคอมพิวเตอร์จะประมวลผลลัพธ์ออกมาในรูปของดิจิตัล เมื่อต้องการส่งข้อมูลนี้ไปบนช่องทางการสื่อสาร เช่น ต่อเชื่อมผ่านทางสายโทรศัพท์ โมเด็มจะทำหน้าที่แปลงสัญญาณดิจิทัลให้เป็นสัญญาณแอนะล็อกเพื่อส่งผ่านไปบนสายโทรศัพท์ ในทางกลับกันเมื่อข้อมูลจากที่อื่นส่งมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา โมเด็มก็จะแปลงสัญญาณแอนะล็อกนั้นมาเป็นสัญญาณดิจิตัล เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเข้าใจได้
โมเด็มที่ใช้กันอย่างแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น ประเภทใหญ่ๆ คือ โมเด็มที่เป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงภายนอกเครื่องคอมพิวเตอร์ (External Modem) และโมเด็มที่เป็นแผงวงจรต่อพ่วงเข้ากับแผงวงจรหลักในเครื่องคอมพิวเตอร์ (Internal Modem) แต่ในปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ มักจะมีโมเด็มประกอบรวมกับแผงวงจรหลักภายในเครื่องอยู่แล้ว ผู้ใช้เพียงแต่เสียบสายโทรศัพท์เข้ากับช่องเสียบด้านหลังของเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็สามารถทำการติดต่อเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตได้




คอมพิวเตอร์

Case สำหรับคอมพิวเตอร์
Power Supply และ Case สำหรับเมนบอร์ดก็เป็นอีกข้อหนึ่งครับที่ไม่ควรมองข้าง โดยทั่วไปแล้วคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ๆ จะใช้ Case แบบ AT แต่ถ้าหากเป็นรุ่นใหม่ ๆ แล้วจะเป็นแบบ ATX นะครับ ข้อดีของ Case และ Power Supply แบบ ATX คือ การออกแบบให้มีการระบายความร้อนได้ดีกว่า และการใช้ Power Supply แบบใหม่ซึ่งจะทำให้สามารถใช้งานระบบ Power Management ต่าง ๆ ได้เช่นการตั้งเวลา เปิด-ปิด เครื่อง เป็นต้น และนอกจากนี้อย่าลืมว่า เมนบอร์ดรุ่นใหม่ ๆ เดี๋ยวนี้ก็จะใช้กับ Case และ Power Supply แบบ ATX เป็นส่วนใหญ่หมดแล้วนะครับ สำหรับท่านที่คิดจะทำการ Upgrade เครื่องเดิมที่เป็น Case แบบ ATแต่หาเมนบอร์ดได้ยาก ก็ลองมองดูส่วนของ Case นี้ด้วยนะครับหากเป็นไปได้ก็อาจจะลงทุนซื้อ Case พร้อม Power Supply แบบ ATX ใหม่ไปเลย ราคาก็คงอยู่หลักพันต้น ๆ เท่านั้น ขนาดของ Power Supply รุ่นเก่า ๆ จะเป็น 200 วัตต์ หากเป็น Power Supply รุ่นใหม่ ๆ หน่อยก็จะเป็น 230-300 วัตต์ หรือสูงกว่านี้แล้ว ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกขนาดของ Power Supply ขนาดวัตต์สูง ๆ ไว้ก็ดี


แหล่งจ่ายไฟ (Power Supply)
               แหล่งจ่ายไฟ (Power Supply) เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน เพราะถ้าไม่มี แหล่งจ่ายไฟ (Power Supply) แล้วนั้น คอมพิวเตอร์จะทำงานได้อย่างไร   แหล่งจ่ายไฟจะมีรูปทรงและการทำงานที่เป็นไปตามระบบปฏิบัติการของ mainboard เช่นกัน
                แหล่งจ่ายไฟ (Power Supply) แบบ ATX นั้นมีการทำงานที่ดีกว่าและเหนือ กว่าการทำงานด้วยแหล่งจ่ายไฟ (Power Supply) แบบ AT เพราะการปิดเปิดเครื่อง ด้วยระบบ ATX นั้นจะมีการทำงานด้วย Software เป็นตัวกำหนดการทำงานสำหรับการ ปิดเปิดเครื่อง และเคส ATX นั้นจะมีการให้แหล่งจ่ายไฟ (Power Supply) มาให้ที่มาก กว่าแหล่งจ่ายไฟ (Power Supply) แบบ AT ส่วนมากที่เคสแบบ ATX ให้มานั้นมักจะ อยู่ที่ 250 Watt ถึง 400 Watt ซึ่งเป็นพลังงานที่มากกว่าระบบ ATทำให้มีความเสถียรภาพมากขึ้นนั่นเอง

คอมพิวเตอร์

ส่วนประกอบของเมนบอร์ด
 1. ชุดชิพเซ็ต
 ชุดชิพเซ็ตเป็นเสมือนหัวใจของเมนบอร์ดอีกที่หนึ่งเนื่องจากอุปกรณ์ตัวนี้จะมีหน้าที่หลักเป็นเหมือนทั้ง อุปกรณ์ แปลภาษา ให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่บนเมนบอร์ดสามารถทำงานร่วมกันได้ และทำหน้าที่ควบคุม อุปกรณ์ต่างๆ ให้ทำงานได้ตามต้องการ
2. หน่วยความจำรอมไบออส และแบตเตอรรี่แบ็คอัพ
 







ไบออส BIOS หรืออาจเรียกว่าซีมอส (CMOS) เป็นชิพหน่วยความจำชนิด หนึ่งที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูล และโปรแกรมขนาดเล็กที่จำเป็นต่อการบูตของระบบคอมพิวเตอร์

3. หน่วยความจำแคชระดับสอง    
หน่วยความจำแคชระดับสองนั้นเป็นอุปกรณ์ ตัวหนึ่งที่ทำหน้าเป็นเสมือนหน่วยความจำ บัฟเฟอร์ให้กับซีพียู โดยใช้หลักการที่ว่า การทำงานร่วมกับอุปกร์ที่ความเร็วสูงกว่า จะทำให้เสียเวลาไปกับการรอคอยให้อุปกรณ์
ที่มีความเร็วต่ำ ทำงานจนเสร็จสิ้นลง เพราะซีพียูมีความเร็วในการทำงานสูงมาก การที่ซีพียูต้องการข้อมูล
ซักชุดหนึ่งเพื่อนำไปประมวลผลถ้าไม่มีหน่วยความจำแคช
4.สล็อต
ขีดความสามารถของเมนบอร์ดขึ้นอยู่กับการมีสล็อต และลักษณะชนิดของสล็อต เพราะหากมีสล็อตหลายสล็อตก็หมายถึงการขยายหรือ
เพิ่มอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อื่นได้ แต่หากมีจำนวนสล็อตมาก ก็หมายถึงราคาของเมนบอร์ดก็สูงขึ้น ชนิดของสล็อตที่มีกับเมนบอร์ดประกอบด้วย
                4.1.PCI เป็นสล็อตที่มีไว้สำหรับเพิ่มฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ เช่น เพิ่มการ์ดเชื่อมต่อแลน การ์ดวิดีโอ การ์ดเสียง จำนวนสล็อต PCI มี   แตกต่างกัน โดยทั่วไปจะมีให้ตั้งแต่ ถึง สล็อต
                4.2.DIMM เป็นช่องใส่หน่วยความจำ ซึ่งปกติใช้ได้กับ DDRAM แต่ในบางเมนบอร์ดจะมีสล็อตที่เป็น SDRAM โดยเฉพาะนั่น   หมายถึง นำ DDRAM มาใช้ไม่ได้ แต่ถ้าเป็น DIMM สล็อตจะใช้ได้ทั้ง SDRAM และ DDRAM โดยปกติจะมีช่องใส่หน่วยความจำ   แบบนี้อยู่ ถึง ช่อง เพราะหน่วยความจำที่ใช้มีความจุต่อการ์ดสูงขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องใช้ช่องมากเหมือนเมื่อก่อน
                4.3.AGP ย่อมาจาก Accerelator Graphic Port เป็นสล็อตสำหรับใส่การ์ดจอภาพแสดงผล ซึ่งเน้นในเรื่องความเร็วของการแสดงผลกราฟิกส์ ปัจจุบันมีผู้ผลิตการ์ดแสดงผลที่ต้องการแสดงผลได้เร็ว โดยเฉพาะพวกเกม 3D เทคโนโลยี AGP จึงต้องทำให้การถ่ายโอนข้อมูลแสดงผลเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ความเร็วสูงขึ้น โดยวัดความเร็วเป็นจำนวนเท่าของมาตรฐานปกติ    เช่น 4x คือ สี่เท่า
                4.4.Ultra DMA/100 DMA ย่อมาจาก Direct Memory Access เป็นช่องทางของการถ่ายโอนหน่วยความจำกับอุปกรณ์อินพุตเอาท์พุตที่มีการโอนย้ายข้อมูลเป็นบล็อก และต้องการความรวดเร็ว พอร์ตที่ใช้ DMA แบบนี้คือ ฮาร์ดดิสค์ ฟลอปปี้ดิสค์ ซีดีและดีวีดี เป็นต้น ช่องทางนี้
จึงเป็นช่องทางเชื่อมกับฮาร์ดดิสค์หรือซีดีรอม ถ้ามี Ultra DMA สองช่องก็หมายถึงมีสายเชื่อมไปยังฮาร์ดดิสค์ที่จะต่อเข้า        เมนบอร์ดได้สอง
เส้น แต่ละเส้นต่อได้สองไดร์ฟ นั่นหมายถึงใส่ฮาร์ดดิสค์ได้สี่ไดร์ฟ
5.พอร์ตมาตรฐานต่าง ๆ บนเมนบอร์ดจะมีการสร้างพอร์ตมาตรฐานต่าง ๆ เช่น USB พอร์ต ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า พอร์ต อาจจะเป็น ถึง พอร์ต พอร์ตขนานต่อเครื่องพิมพ์ พอร์ตอนุกรม (ปกติมีให้ 1-2 พอร์ต) พอร์ต PS/2 เมาส์ พอร์ต PS/2 คีย์บอร์ด พอร์ตมาตรฐานเหล่านี้กำลัง
เพิ่มพอร์ตพิเศษบางชนิดเข้าไปด้วย เช่น พอร์ต Fly wire พอร์ตเชื่อมต่อวิดีโอ ความเร็วสูง IEEE1394 พอร์ต SVideo
ขีดความสามารถเพิ่มเติมพิเศษ  พลังงาน เป็นการพัฒนาร่วมระหว่างไบออสกับฮาร์ดแวร์ให้มีโหมดพิเศษในการจัดการพลังงาน การปิดเปิด ตลอดจนการ Shutdown การเปิดเองตามการปลุกด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น Wake up on lan คือใช้แลนสั่งงานมาจากที่อื่นให้เครื่องเริ่มทำงานให้
การเพิ่มวงจรพิเศษ เพื่อให้ลดค่าใช้จ่ายภาพรวมจึงมีการสร้างวงจรพิเศษที่จำเป็นบางวงจรไว้บนเมนบอร์ดด้วย เช่น วงจรการ์ดเสียง วงจรการ์ดแลน การ์ดโมเด็ม หรืออุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ ที่เคยมีเป็นการ์ดแยกต่างหาก ส่งท้าย เท่าที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการแนะนำให้รู้จักกับลักษณะและคุณสมบัติของเมนบอร์ดโดยทั่วไป ซึ่งผู้สนใจสามารถหาข้อมูลได้   จากบริษัทผู้ผลิตเมนบอร์ดผ่านทางเว็บไซต์ได้ บริษัทผู้ผลิตที่สำคัญได้แก่ ASUSTEK, ABIT, Aopen, FIC, DFI, IWILL, Elite Group, Tyan และ Micronics สำหรับราคามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อมีรุ่นใหม่มารุ่นเก่าก็จะมีราคาลดลงอย่างมาก ผู้สนใจลองเดินดูจากร้านค้าตามไอทีมอลต่าง ๆ จะเห็นความหลากหลายของเมนบอร์ดให้เลือกได้

คอมพิวเตอร์

เราแบ่งประเภทของเมนบอร์ดอย่างไร ?
เราสามารถแบ่งประเภทของเมนบอร์ดได้ตามรุ่น หรือลักษณะรูปร่างของซีพียูก็ได้หรือแบ่งตามประเภทของแหล่งจ่ายไฟ (Power Supply) รวมทั้ง Case ก็ได้
1.        แบ่งตามรุ่นของซีพียู เช่น รุ่น 286,386,486,Pentium, Pentium MMX, Pentium II, Pentium III และ Pentium IV เป็นต้น
2.        แบ่งตามลักษณะ/รูปร่างของซีพียู เช่นเป็นแบบ ซ็อกเก็ต (Socket) ซึ่งจะมีทั้ง Socket 3, 4, 5, 6 7,8 หรือ Socket 370 Socket PPGA Socket A หรือ ซีพียู อีกแบบคือ แบบ Slot ซึ่งมีทั้ง Slot 1, Slot A เป็นต้น
3.        แบ่งตามข้อต่อของแหล่งจ่ายไฟที่จ่ายให้กับเมนบอร์ด ซึ่งข้อต่อดังกล่าวมีทั้งแบบ AT และ ATX ปัจจุบันนี้ได้มีการออกแบบเมนบอร์ดและเคสในรูปแบบใหม่ ในชื่อว่า ATX ดังที่คุณจะได้ยินว่าเมนบอร์ดแบบ ATX และเคสแบบ ATX มากขึ้นในอนาคต เพราะมันได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อลบจุดบกพร่องของการออกแบบเคสและ เมนบอร์ดแบบเก่า ซึ่งจะมีการจัดวางตำแหน่งต่างๆ บนเมนบอร์ดและเคสไม่เหมาะสมสำหรับการทำงานของคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันสักเท่าไร เนื่องมาจากว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมีความเร็วในการทำงานสูง เมื่อความเร็วสูงขึ้นก็จะทำให้เกิด ปัญหา เรื่องความร้อนของพีซียูตามมา และเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์มีความเร็วสูง ก็จะต้องมีเมนบอร์ดที่สนับสนุนความเร็วที่ เพิ่มขึ้นมาด้วย ทำให้เป็นจุดกำเนิดของคำว่า ATX ขึ้นมาแต่ก็ยังมีผู้ที่นิยมเมนบอร์ดและเคสแบบ ATX กันไม่มากนักเหตุที่ ราคายังคงแพงกว่าเมนบอร์ดแบบธรรมดาอยู่มาก ซึ่งในอนาคตเมื่อมีผู้นิยมใช้มากขึ้น และมีผู้ผลิตเมนบอร์ดและเคสแบบ ATX มากขึ้น ก็น่าจะทำให้ราคาลดลงได้
เมนบอร์ดยี่ห้อไหนดี?
ปัจจุบันมีอยู่มากมายหลายยี่ห้อ เช่น ASUS ,GIGABYTE ,MATSONIC ,MSI ,INTEL ,ABIT ,AOPEN, PC-100 AZZA ,ECS ,TYANถ้าจะระบุยี่ห้อไหนดีก็อาจจะลำบากสักหน่อย เพราะปัจจุบันแต่ละยี่ห้อก็ผลิตเมนบอร์ดกันหลายรุ่นและมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป แต่เมนบอร์ดที่มีชื่อเสียงมานานก็อาจจะได้เปรียบยี่ห้ออื่นบ้างเช่น INTEL, ASUS เป็นต้น

คอมพิวเตอร์

ประเภทของแรมรุ่นต่าง ๆ
           DRAM    คือ เมโมรี่แบบธรรมดาที่สุด ซึ่งความเร็วขึ้นอยู่กับค่า Access Time หรือเวลาที่ใช้ในการเอาข้อมูลในตำแหน่งที่เราต้องการออกมาให้ มีค่าอยู่ในระดับนาโนวินาที (ns) ยิ่งน้อยยิ่งดี เช่น ชนิด 60 นาโนวินาที เร็วกว่าชนิด 70 นาโนวินาที เป็นต้น รูปร่างของ DRAM เป็น SIMM 8 บิต (Single-in-line Memory Modules) มี 30 ขา DRAM ย่อมาจาก Dynamic Random Access Memory

                              Fast Page DRAM  ปกติแล้วข้อมูลใน DRAM จึงถูกเก็บเป็นชุด ๆ แต่ละชุดเรียกว่า Page ถ้าเป็น Fast Page DRAM จะเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่าปกติสองเท่าถ้าข้อมูลที่เข้าถึงครั้งที่แล้ว เป็นข้อมูลที่อยู่ใน Page เดียวกัน Fast Page DRAM เป็นเมโมรี่ SIMM 32บิตมี 72ขา (Pentium มีดาต้าบัสกว้าง 64 บิตดังนั้นจึงต้องใส่ SIMM ทีละสองแถวเสมอ)
                                                  EDO RAM
EDO Ram นำข้อมูลขึ้นมาเก็บไว้ใน Buffer ด้วย เพื่อว่า ถ้าการขอข้อมูลครั้งต่อไป เป็นข้อมูลในไบต์ถัดไป จะให้เราได้ทันที EDO RAM จึงเร็วกว่า Fast Page DRAM ประมาณ 10 % ทั้งที่มี Access Time เท่ากัน เพราะโอกาสที่เราจะเอาข้อมูลติด ๆกัน มีค่อนข้างสูง EDO มีทั้งแบบ SIMM 32 บิตมี 72 ขา และ DIMM 64 บิตมี 144 ขา คำว่า EDO ย่อมาจาก Extended Data Out
                                                           SDRAM
เป็นเมโมรี่แบบใหม่ที่เร็วกว่า EDO ประมาณ 25 % เพราะสามารถเรียกข้อมูลที่ต้องการขึ้นมาได้ทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้เวลาผ่านไปเท่ากับ Access Time ก่อน หรือเรียกได้ว่า ไม่มี Wait State นั่นเอง ความเร็วของ SDRAM จึงไม่ดูที่ Access Time อีกต่อไป แต่ดูจากสัญญาณนาฬิกาที่ โปรเซสเซอร์ติดต่อกับ Ram เช่น 66, 100 หรือ 133 MHz เป็นต้น SDRAM เป็นแบบ DIMM 64 บิต มี 168 ขา เวลาซึ้อต้องดูด้วยว่า MHz ตรงกับเครื่องที่เราใช้หรือไม่ SDRAM ย่อมาจาก Sychronous DRAM เพราะทำงาน "sync" กับสัญญาณนาฬิกาบนเมนบอร์ด
                                                            SDRAM II (DDR)
DDR (Double Data Rate) SDRAM มีขา 184 ขา มีอัตราการส่งข้อมูลเป็น เท่าของความเร็ว FSB ของตัว RAM คือ มี ทิศทางในการรับส่งข้อมูล และมีความเร็วมากกว่า SDRAM เช่น ความเร็ว 133 MHz คูณ 2 Pipline เท่ากับ 266 MHz
                                                          RDRAM
RDRAM หรือที่นิยมเรียกว่า RAMBUS มีขา 184 ขา ทำมาเพื่อให้ใช้กับ Pentium4 โดยเฉพาะ(เคยใช้กับ PentiumIII และ Chipset i820 ของ Intel แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากมีปัญหาเรื่องระบบไฟจึงยกเลิกไป) มีอัตราการส่งข้อมูลเป็น เท่าของความเร็ว FSB ของตัว RAMคือ มี ทิศทางในการรับส่งข้อมูล เช่น RAM มีความเร็ว BUS = 100 MHz คูณกับ 4 pipline จะเท่ากับ 400 MHz เป็นเมโมรี่แบบใหม่ที่มีความเร็วสูงมาก คิดค้นโดยบริษัท Rambus, Inc. จึงเรียกว่า Rambus DRAM หรือ RDRAM อาศัยช่องทางที่แคบ แต่มีแบนด์วิทด์สูงในการส่งข้อมูลไปยังโปรเซสเซอร์ ทำให้ความเร็วในการทำงานสูงกว่า SDRAM เป็นสิบเท่า RDRAM เป็นทางเลือกทางเดียวสำหรับเมนบอร์ดที่เร็วระดับหลายร้อยเมกกะเฮิร์ดซ์ มีแรมอีกชนิดหนึ่งที่ออกมาแข่งกับ RDRAM มีชื่อว่า Synclink DRAM ที่เพิ่มความเร็วของ SDRAM ด้วยการเพิ่มจำนวน bank เป็น 16 banks แทนที่จะเป็นแค่ 4 banks

รายการแรมและราคา
                           ราคา620.00 บาท
 Kingston 128MB 266MHz DDR Non-ECC CL2 DIMM KVR266X64C2/128
Description: 128MB 266MHz DDR Non-ECC CL2 DIMM Detailed Specifications: Standard 1...
                         ราคา1,088.00 บาท
Kingston KVR266X64C25/256 256MB 266MHz DDR Non-ECC CL2.5 DIMM
 Description: 256MB 266MHz DDR Non-ECC CL2.5 DIMM Detailed Specifications: Standa...
                                 ราคา 2,095.00 บาท
Kingston KVR266X64C25/512 512MB 266MHz DDR Non-ECC CL2.5 DIMM 
 Description: 512MB 266MHz DDR Non-ECC CL2.5 DIMM Detailed Specifications: Standa...
         Actingdesign Computer Service บริการย่าน ธนบุรี โทร 01-821 3255 และ02-868 8059